LSM99 Talk : คุยกันหลังเกมส์แมนยูตกรอบแรก 0-1
LSM99 Talk จบลงไปแล้วสำหรับศึกลีกคัพในเกมที่แมนยูพ่ายคารังต่อเวสต์ แฮมไปแบบช็อกแฟนบอลเจ้าถิ่น 0 ประตูต่อ 1 ซึ่งพวกเค้ามาได้ประตูชัยตั้งแต่ช่วงต้นเกมอาทิตย์ที่ 9 จากมานูเอลลานซินี่และถือว่าเป็นการแก้แค้นภายหลังพึ่งแพ้ในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งบนความพ่ายแพ้ของพลพรรคปีศาจแดงมีหลายเรื่องราวที่ให้ได้พูดถึงเยอะเหลือเกินไล่ตั้งแต่การจัดทีมผลการแข่งขันและรายละเอียดในเกมว่าแล้วเดี๋ยวเรามาไล่เรียงกันดูหน่อยนะครับว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
เริ่มต้นที่การจัดทัพของทั้งสองฝั่งครับเกมนี้แมนยูของ โอเล่กุนนาร์ โซลชาร์ เลือกที่จะเปลี่ยนแบบยกแพง 11 คนจากนัดที่โดนเกมเมื่อสุดสัปดาห์ชนิดที่เรียกว่าเป็นนักเตะจากทีมชุดใหญ่ทั้งหมดไม่ได้มีดาวรุ่งมาผสมผสานกันเลยแม้แต่น้อย นายทวารโอกาสส่งมาเป็นของ ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งแรกในปีนี้ ส่ววแผง Back Flow นำมาโดย วิกตอร์ ลินเดอเลิฟ จับคู่กับ เอริก ไบยี่ โดยมี ขนาบข้างซ้าย อเล็กซ์ เตลเลส และ ดิโอโก้ ดาโลต์ขยับมาที่แดนกลางมีทั้ง ฮวน มาต้า ส่วนเกมรุกที่สนใจเกมนี้นะครับ จาดอน ซานโช่ พร้อมกับ เจสซี่ ลินการ์ด สวนหน้าเป้าเป็นอ็องโตนี่ มาร์กซิอัล
ส่วนฝั่งผู้มาเยือน David moyes ก็เลือกจะปรับมาใช้ตัวสำรองเกือบทั้งหมดมีเพียง จาลอด โบเว่น เพียงคนเดียวที่หลงเหลือจากสุดสัปดาห์ส่วนรายการ
อื่นนะครับก็นำมาด้วย ดอว์สัน , ลันซินิ และ ยาร์โมเลนโก
ย้อนกลับไปหนึ่งในปัญหาที่แฟนบอลแมนยูเป็นห่วงและกังวลเป็นอย่างมากคือนักเตะในตำแหน่งเกมรุกทางฝั่งขวาที่ทีมต้องการใครสักคนมาอุดรอยรั่วตรงนั้นก่อนที่พวกเขาจะเดินหน้าคว้าตัว ซานโช มาเสริมทัพภายหลังความพยายามเจรจามา 2 ปี 3 ปีและการเข้ามาของ ซานโช นะครับก็สร้างความกระชุ่มกระชวยหัวใจกับแฟนผีไม่ใช่น้อย
นี่คือนักเตะที่ฟอร์มดีคงมาตรฐานไว้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นเรื่องยิง หรือแอสซิสต์ได้เป็นกอบเป็นกำในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมากแต่ทว่าตั้งแต่ย้ายมาใส่เสื้อ Manchester United ซานโช ยังไม่สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์อะไรออกมาได้มากเท่าไหร่นักแถมยังไม่อาจสามารถยึดเป็น 11 ตัวจริงของทีมได้แบบถาวรอีกด้วยหนำซ้ำตำแหน่งที่เขาลงเล่นนะครับก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่พื้นที่เดียวกันที่ต้องการในตอนแรกโดยที่ผ่านมานะครับในเกมใดที่ ซานโช ได้มีโอกาสลงสนามเจ้าตัวจะถูกบัญชามาว่าให้ไปฝังที่ใดอยู่ทางฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนใหญ่อย่างในเกมล่าสุดเจ้าตัวก็เล่นฝั่งซ้ายอยากให้ ลิน การ์ด ขยับไปเล่นทางฝั่งขวาดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นมาเลยดูขัดหูขัดตาไปเสียหน่อยนะครับซึ่งมันก็เกิดคำถามไปถึงตัว โซลชาร์ ว่ากำลังคิด****อะไรอยู่ OK แม้นักเตะจะเล่นได้แต่มันเป็นการดึงศักยภาพของนักเตะมาใช้ได้อย่างเต็มที่หรือเปล่านะๆ
คืนนี้ถ้าใครไม่ได้ตื่นมาดูรายละเอียดในเกมนะครับแต่เพียงเปิดสวิตช์ต่างๆดูอาจจะร้องอุทานเสียงหลงและแปลกใจไม่น้อยกับโอกาสที่แมนยูมีโอกาสทำระตูสูงถึง 27 รอบแต่ทว่าโอกาสจากการทำประตูมากมายขนาดนั้นพวกเขาสามารถยิงบอลให้ตรงกรอบได้แค่ 6 ครั้ง ซึ่งในที่จำนวนที่มันดูเยอะแยะนะมันก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้นายด่านคู่แข่งมากเท่าไหร่นักเพราะมันเกิดจากการยิงทิ้งขว้างเรียกง่ายๆว่าไม่ได้แม้แต่จะเสียวเลยสักนิดเดียวก็ว่าได้ครับ
ซึ่งเข้าใจว่าการครองบอลบุกเข้าใส่คู่แข่งเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นในเกมนี้เนื่องด้วยจากทางฝั่งผู้มาเยือนเองก็ปรับมาเล่นเกมป้องกันแบบเต็มอัตราศึกแต่ทว่าสิ่งที่ดูจะผิดแปลกไปคือการเข้าทางของทีมปีศาจแดงที่มันไม่มีความละเอียด แม้จะเป็นเพียงถ้วยบอลเล็กแต่อย่างน้อยก็ควรจะเน้นมากกว่านี้เพราะมันก็หมายถึงความสำเร็จที่ทีมควรจะมีมาประดับไว้ที่สโมสรไว้บ้าง TSBET911
แมนยูก็ไม่สามารถเจาะเกมรับของคู่แข่งก็ไปทำประตูได้การเปลี่ยนตัวมันจะเกิดขึ้นการเปลี่ยนตัวครั้งแรกเกิดคือนาทีที่ 62 ถือว่าตอบโจทย์อย่างทีเดียวในการเลือก เมสัน กรีนวู้ด มาแทนที่ของ ฮวน มาต้า มาทำให้แฟนบอลมีความหวังพึ่งพาความเฉียบคมของนักเตะคนนี้ได้อีกทางมันจะแสดงให้เห็นว่าไอ้ไม้เขียวมาอยู่ในสนามนะครับเหมือนเป็นการปลุกวิญญาณเกมรุกของทีม
และเจ้าตัวก็มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงประตูหลังจากนั้นอีกราว 10 นาที เริ่มขยับกลับมาอีกครั้งด้วยการส่ง บรูโน่ แฟร์นันเดส กับ แอนโทนี่ อารก้า ลงสนามมาแทนที่ของ เจสซี่ ลินการ์ด และ อเล็กซ์ เตลเลส ซึ่งตรงนี้บางทีมันอาจจะขัดใจแฟนบอลอยู่บ้างตรงที่ทำไมถึงเลือกถอด เจสซี่ ลินการ์ด ออกแทน เนมานย่า มาติช ที่เล่นเหมือนไร้วิญญาณและเลือกจะเก็บลินการ์ดที่กำลังมั่นใจในสนามต่อไปซึ่งต้องเรียนตามตรงนะครับว่าเจ้าของฉายาน้องหมากไม่อาจจะสร้างความแตกต่างส้นตีนอะไรได้แถมโดนลักพาตัวออกจากสนามไปซะอย่างนั้น
มีจังหวะที่ควรยิงควรจะวิ่งหาช่องหรือวางตัวเองอยู่ในกรอบเขตโทษ แต่ทว่าไม่พบเงาของผู้ชายคนนี้เลยและด้วยเหตุนี้ล่ะครับมันเลยเป็นที่มาของความต่างระหว่างการมี โรนัลโด้ และ ดีมานี่ เมลเลอร์ ยืนค้ำเป็นหัวหอกอยู่ในสนามนั่นแหละ
ถามเราว่าถ้วยลีกคัพมันน่าดึงดูดความน่าสนใจมากเท่าไหร่คงยกมือตอบได้แบบทันท่วงทีว่าไม่ได้มีอิทธิพลมากขนาดนั้นเพราะถ้าเราไล่เรียงดูการจัดที่ของหลายสโมสรจะพบว่าตากให้โอกาสเราแค่ตัวสำรองและดาวลงมาเก็บประสบการณ์ในถ้วยมีค่าทั้งนั้นแต่ทว่ากับแมนยูเหมือนเป็นทีมที่ละไว้ด้วยเหตุผลดังกล่าว สิ่งที่เร้าๆ ด้วยเหตุผลดังกล่าวแม้จะเป็นถ้วยเล็กสุดที่ลงเล่นแต่ทว่าในชั่วโมงนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ของทีมบวกกับความกดดันที่พาเขา มันแทบจะมัดมือชกว่าต้องเอาชนะถ้วยใบนี้ก็อย่างน้อยก็ได้มีความสำเร็จหลั่งไหลเข้ามายังสโมสรบ้างและมันยังเป็นการคลายความกดดันของตัวกุนซือมือเปล่ามาตลอดตั้งแต่เข้ามาคุมทีม
อย่างไรก็ตามนะครับมันกลายเป็นว่า โซลชาร์ และลูกทีมตอนนี้ทิ้งขว้างถ้วยฟุตบอลใบนี้ที่แฟนบอลหวังไว้ตั้งแต่รอบแรกที่ลงเล่นไปซะอย่างนั้น แล้วอย่าไปมัวอ้างเลยครับว่าถ้วยเล็กไม่อยากได้เพราะอย่างน้อยมันก็พิสูจน์ให้เห็นถึงอะไรหลายๆ อย่างโดยเฉพาะเรื่องของความสำเร็จที่แฟนบอลถวิลหาอย่างมากในชั่วโมงนี้